จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | พระสมเด็จ วัดขุนอินทรประมูล |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
พระสมเด็จ กรุวัดขุนอินทรประมูล พิมพ์พระประธาน จ.อ่างทอง (ไม่ปล่อยเช่า..พระโชว์ครับ..)
พระสมเด็จวัดระฆังฯ ซึ่งจัดสร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ปัจจุบันเป็นที่แสวงหาของนักสะสมเล่นหากันองค์ละเป็นหลักแสนหลักล้าน
ด้วยจำนวนที่มีอยู่น้อย ส่งผลทำให้พระพิมพ์สมเด็จที่มีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จโต ได้รับความนิยมตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น พระสมเด็จกรุบางขุนพรหม พระสมเด็จเกศไชโย รวมถึง พระสมเด็จกรุนี้ด้วย
“พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล” วัดขุนอินทประมูล ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
จากประวัติวัดขุนอินทประมูล เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์ เคยเป็นที่ตั้งของชุมชนมาตั้งแต่สมัยทวารวดีจนถึงสมัยสุโขทัย ถือเป็นชุมชนใหญ่ริมฝั่งคลองบางพลับ ซึ่งเป็นคลองเชื่อมระหว่างแม่น้ำน้อยกับแม่น้ำเจ้าพระยา
จากตำนานสิงหนวัติ กล่าวถึงการจัดสร้างพระพุทธไสยาสน์ วัดขุนอินทประมูล ครั้งหนึ่งในสมัยสุโขทัย พระยาเลอไทได้เสด็จออกจากกรุงสุโขทัยทางชลมารคเพื่อนมัสการพระฤาษีสุกกะทันตะ ผู้เป็นพระอาจารย์ ณ เขาสมอโคน เขตกรุงละโว้
จากนั้นเสด็จกลับโดยล่องตามคลองบางพลับเพื่อเสด็จประพาสท้องทุ่ง และแวะประทับแรม ณ โคกบางพลับ ทรงเกิดศุภนิมิตทอดพระเนตรเห็นดวงไฟดวงใหญ่ลอยขึ้นเหนือยอดไม้ แล้วหายไปทางทิศตะวันออก พระองค์ทรงโสมนัสและดำริให้สร้างพระพุทธไสยาสน์ขึ้น ขนานนามว่า “พระพุทธไสยาสน์เลอไทนฤมิตร”
จากนั้นมา พระพุทธไสยาสน์เลอไทนฤมิตร ก็ได้ถูกทิ้งร้างไม่ได้รับการดูแล จนชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จวบจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี รัชสมัยพระเจ้าบรมโกศ มีนายอากรตำแหน่งที่ “ขุนอินทประมูล” ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
“ขุนอินทประมูล” มีความตั้งใจอันแรงกล้า ประสงค์บูรณะพระพุทธไสยาสน์และสร้างวัด เริ่มแรกได้นำทรัพย์สินส่วนตัวประมาณ 100 ชั่ง นำมาสร้างวิหาร และเจดีย์ ณ โคกใหญ่ด้านตะวันออกสำเร็จลง
ต่อมาเห็นว่าพระพุทธไสยาสน์ทรุดโทรมมาก การบูรณะต้องใช้ทุนทรัพย์เป็นจำนวนหลายร้อยชั่ง ทรัพย์ส่วนตัวไม่เพียงพอ จึงยักยอกพระราชทรัพย์หลายร้อยชั่งมาสร้างจนสำเร็จ แล้วพยายามปกปิดไว้
เมื่อข่าวลือสะพัดไปถึง พระยาวิเศษไชยชาญ เจ้าแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ส่งคนมาสอบถามได้ความจริง จึงนำเรื่องขึ้นกราบทูลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โปรดเกล้าฯ ให้พระยากลาโหมขึ้นมาไต่สวน
ขุนอินทประมูลให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ส่วนตนจัดสร้างเองทั้งหมด จึงถูกลงทัณฑ์ เมื่อใกล้สิ้นใจได้ขอพระราชทานให้งดโทษ แล้วสารภาพว่า ได้ยักยอกพระราชทรัพย์ไปจริง แต่มุ่งสร้างให้เป็นการเสริมพระบารมี ภายหลังขุนอินทประมูลทนรับการลงทัณฑ์ไม่ไหวถึงแก่กรรมเมื่อพ.ศ.2296 อายุได้ 80 ปีเศษ พระยากลาโหมกลับไปทูลความ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงทราบเสด็จฯขึ้นมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง ทรงเห็นว่า ขุนอินทประมูลมีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทรงโปรดให้ฝังร่างของขุนอินทประมูลไว้เขตพระวิหาร ด้านหลังองค์พระพุทธไสยาสน์
หลังจากทำพิธียกเกศทองคำหนัก 100 ชั่ง พระราชทานประดับเหนือเศียรพระพุทธไสยาสน์ พระราชทานนามวัดว่า “วัดขุนอินทประมูล” และถวายนามพระพุทธไสยาสน์ว่า “พระพุทธไสยาสน์ขุนอินประมูล”
“พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล” มีการเอ่ยอ้างและสันนิษฐานว่า ได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นผู้สร้าง หรือร่วมสร้างและบรรจุในใต้ฐานของพระพุทธไสยาสน์ขุนอินทประมูล หรืออย่างน้อยที่สุดก็อาจจะได้รับพระบารมีจากสมเด็จโต
เหตุผลสนับสนุน สืบเนื่องจากครั้งหนึ่งเมื่อประมาณปีพ.ศ.2410 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่สร้างพระพุทธรูปนั่ง พระมหาพุทธพิมพ์ ณ วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ครั้งนั้นเป็นฤดูน้ำหลาก สมเด็จโตได้ให้ชาวบ้านผู้ติดตามแจวเรือลัดทุ่งนามานมัสการพระพุทธไสยาสน์วัดขุนอินทประมูล
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เซียนพระและนักสะสมไม่เคย ได้ยินเรื่อง“พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล” มาก่อนเลย จวบจนกระทั่งปี 2551 ทางวัดขุนอินทประมูล เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่ามหากุศลสร้างอุโบสถหลังใหม่ โดยมีพระพิมพ์สมเด็จเป็นของสมนาคุณ
ตั้งแต่นั้น พระสมเด็จกรุขุนอินประมูล จึงถูกเปิดเผยขึ้น โดยระบุว่า แตกกรุยุคแรกๆประมาณปีพ.ศ.2530 ซึ่งเกิดจากการแอบขุดของคนบางกลุ่ม โดยการขุดตรงบริเวณด้านหลังกึ่งกลางองค์พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ วัดขุนอินทประมูล ขณะที่กำลังทำการบูรณะ สมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูลนับว่าเป็นสมเด็จที่ผ่านการสวดพุทธมนต์บรรจุพุทธคุณมาเป็นเวลาช้านาน เนื่องจากเป็นพระที่บรรจุอยู่ในองค์หลวงพ่อพระนอนองค์ใหญ่พระประธานแห่งวัดขุนอินทประมูล ซึ่งแตกต่างจากพระกรุอื่นๆที่มักพบตามเจดีย์,กำแพง,และบริเวณอื่นๆรอบๆวัด
ต่อมาได้มีผู้ที่รวบรวมพระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูล จำนวน 2,000 องค์นำถวายคืนวัด เพื่อสนับสนุนการสร้างอุโบสถ ซึ่งมีการรวบรวมประวัติและองค์พระพิมพ์ต่างๆ จัดทำเป็นหนังสือ ซึ่งขายดีมาก รวมถึงพระกรุนี้ได้ถูกเผยแพร่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต มีการเปิดประมูลราคากันอย่างคึกคัก
พระสมเด็จกรุขุนอินประมูล พิมพ์หลักๆมีทั้งหมด 4 พิมพ์คือ พิมพ์พระประธาน, พิมพ์ใหญ่, พิมพ์ทรงเจดีย์ และพิมพ์คะแนน(องค์เล็ก) ซึ่งพระสมเด็จวัดระฆังฯ พระสมเด็จบางขุนพรหม และพระสมเด็จเกศไชโย ไม่มีพระสมเด็จองค์เล็ก หรือพิมพ์คะแนน แต่มีจำนวนไม่มาก จึงเป็นข้อแตกต่างไปจากพระสมเด็จวัดระฆังฯ เนื้อพระเป็นพระผงสีขาว มีมวลสารตามทฤษฎีของพระสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) เป็นพระรูปทรงสี่เหลี่ยมและมีขนาดเท่าๆกับพระสมเด็จวัดระฆังฯ พุทธศิลป์ใกล้เคียงกันมาก ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |